fbpx
iOS 14 ของ Apple ส่งผลต่อโฆษณาและรายงานใน Facebook ของคุณอย่างไร

หลังจากที่ Apple ได้ประกาศความเปลี่ยนแปลงที่มีขึ้นใน iOS 14 ซึ่งจะส่งผลต่อวิธีที่ Facebook รับและประมวลผลเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นจากเครื่องมือต่างๆ อย่างพิกเซลของ Facebook ธุรกิจที่ลงโฆษณาแอพมือถือ รวมถึงธุรกิจที่ใช้การปรับให้เหมาะสม กำหนดเป้าหมาย และรายงานเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นบนเว็บไซต์จากเครื่องมือธุรกิจต่างๆ เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากขึ้นที่เลือกปิดการติดตามบนอุปกรณ์ที่ใช้ iOS 14 การปรับแต่งโฆษณาและการรายงานประสิทธิภาพจะถูกจำกัดทั้งในเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นบนแอพและบนเว็บ ดังนั้นคุณควรวางแผนแสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นที่เกิดขึ้นในแอพของธุรกิจของคุณ ให้ดำเนินการดังนี้

    • อัพเดต SDK ของ Facebook สำหรับ iOS 14 เป็นเวอร์ชัน 1 เพื่อช่วยปรับแต่งโฆษณาที่ส่งไปยังผู้ใช้ iOS 14 และเพื่อให้สามารถรับการรายงานเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นบนแอพต่อไปได้
    • เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้ SDK, API เหตุการณ์ในแอพ และ Mobile Measurement Partner ของ Facebook เพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ที่ใช้ iOS 14 และวัดประสิทธิภาพ
    • คุณอาจต้องตรวจสอบยืนยันโดเมนของเว็บไซต์ของคุณเพื่อไม่ให้เกิดการหยุดชะงักของแคมเปญบนเว็บไซต์ในอนาคต
    • คุณควรดำเนินการตรวจสอบโดเมนที่มีพิกเซลซึ่งใช้งานโดยธุรกิจหรือบัญชีโฆษณาส่วนตัวหลายบัญชีก่อน เนื่องจากจะช่วยให้คุณสามารถกำหนดค่าเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นของพิกเซลได้เมื่อฟีเจอร์การวัดผลเหตุการณ์แบบรวมใช้งานได้
    • กำหนดค่าเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นเว็บที่ต้องการ ในขั้นต้น Facebook จะกำหนดค่าเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณมากที่สุดโดยอิงจากกิจกรรมของคุณ
    • หากคุณตั้งค่าพิกเซลโดยใช้แท็ก IMG แล้ว หรือมีแผนจะทำเช่นนั้น ขอแนะนำให้คุณดำเนินการตามเอกสารสำหรับผู้พัฒนา โดยเข้าไปที่ Facebook for Developers
    • เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้พิกเซลของ Facebook เพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ที่ใช้ iOS 14 และวัดประสิทธิภาพ

 

ข้อจำกัดในการสร้างโฆษณา

    • คุณสามารถเชื่อมโยงแอพของคุณเข้ากับบัญชีโฆษณาเพียงบัญชีเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้บัญชีโฆษณาเดียวกันเพื่อลงโฆษณาให้หลายๆ แอพได้
    • แอพแต่ละแอพจะมีจำนวนแคมเปญบน iOS 14 ที่จะใช้งานพร้อมกันได้ 9 แคมเปญ แคมเปญแต่ละแคมเปญจะมีจำนวนชุดโฆษณาที่ใช้ประเภทการปรับให้เหมาะสมประเภทเดียวกันได้ 5 ชุด คุณไม่สามารถใช้ตัวเลือกการปรับให้เหมาะสมที่ต่างกันกับชุดโฆษณาทั้งหมดในแคมเปญเดียวกันได้
    • การประมูลราคาจะเป็นตัวเลือกการซื้อเดียวที่คุณสามารถเลือกใช้งานได้เมื่อคุณสร้างโฆษณาสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ iOS 14 ส่วนการเข้าถึงและความถี่จะไม่สามารถเลือกใช้ได้
    • เมื่อแคมเปญของคุณเผยแพร่ไปแล้ว คุณจะไม่สามารถเปิดหรือปิดแคมเปญ iOS 14 ได้อีก คุณจำเป็นจะต้องปิดหรือลบแคมเปญของคุณ
    • พิกเซลของคุณสามารถปรับให้เหมาะสมสำหรับแต่ละโดเมนได้สูงสุดเพียง 8 เหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นเท่านั้น ในขั้นต้น Facebook จะกำหนดค่าเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณมากที่สุดโดยอิงจากกิจกรรมของคุณ
    • ชุดโฆษณาที่ถูกปรับให้เหมาะสมกับเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นพิกเซลซึ่งใช้การไม่ได้อีกต่อไปจะถูกปิด ก่อนที่ข้อจำกัดดังกล่าวจะบังคับใช้ ควรพิจารณาดูว่าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของแคมเปญหรือกลยุทธ์การวัดผลของคุณหรือไม่
    • เหตุการณ์ที่ไม่ได้กำหนดค่าให้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นสำหรับโดเมนทั้ง 8 เหตุการณ์จะยังคงใช้สำหรับการรายงานบางส่วนในตัวจัดการโฆษณาและการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของเว็บไซต์ได้อยู่

ข้อจำกัดต่อไปนี้มีผลกับเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นของเว็บไซต์และแคมเปญแอพบน iOS 14

    • คุณสามารถใช้กลยุทธ์การประมูลระดับแคมเปญต่างๆ ได้แก่ ต้นทุนต่ำสุด, เพดานต้นทุน, ROAS ขั้นต่ำ หรือเพดานราคาประมูล อย่างไรก็ตาม หากคุณเลือกกลยุทธ์การประมูลแบบเพดานต้นทุนหรือ ROAS ขั้นต่ำ คุณควรกำหนดเวลาเพื่อแสดงชุดโฆษณาของคุณอย่างน้อย 3 วันเต็ม

สถานะการแสดงโฆษณาใหม่

    • ขีดจำกัดการอัพเดต: แต่ละ ID ของแอพจะมีจำนวนแคมเปญบน iOS 14 จำกัดอยู่ที่ 9 แคมเปญ ระบบจะใช้เวลา 72 ชั่วโมงหลังจากที่คุณปิดแคมเปญแอพบน iOS 14 เพื่อนำออกจากจำนวนที่จำกัดของคุณ โปรดทราบว่าการปิดแคมเปญจะเป็นการปิดชุดโฆษณาและโฆษณาที่เกี่ยวข้องด้วย
    • ขีดจำกัดที่รอดำเนินการ: แต่ละ ID ของแอพจะมีจำนวนแคมเปญบน iOS 14 จำกัดอยู่ที่ 9 แคมเปญ เมื่อคุณถึงขีดจำกัด ID ของแอพสำหรับแคมเปญ iOS 14 ครบ 9 แคมเปญแล้ว แคมเปญ iOS 14 อื่นๆ ที่คุณสร้างและเผยแพร่เพิ่มจะไม่แสดงในทันที หากคุณต้องการเปิดใช้งานแคมเปญ iOS 14 ใหม่หลังจากที่คุณใช้งานถึงขีดจำกัดแล้ว คุณจะต้องปิดแคมเปญ iOS 14 ที่มีอยู่และรอ 72 ชั่วโมงเพื่อให้แคมเปญออกจากระยะเวลารีเซ็ตก่อน
    • เหตุการณ์ที่ไม่รองรับ: เมื่อคุณพยายามปรับให้เหมาะสมกับเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นของเว็บไซต์ที่คุณไม่ได้กำหนดให้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นของเว็บไซต์ที่จัดลำดับความสำคัญไว้ทั้ง 8 เหตุการณ์สำหรับโดเมนของคุณ ชุดโฆษณาของแคมเปญของคุณจะถูกปิด และจะไม่สามารถเปิดใหม่ได้ วิธีแก้คือคุณจะต้องสร้างชุดโฆษณาใหม่สำหรับแคมเปญที่เกี่ยวข้องและเลือกหนึ่งในเหตุการณ์ที่คุณได้จัดลำดับความสำคัญไว้ด้วยตัวจัดการเหตุการณ์เท่านั้น
    • ข้อผิดพลาดในการตั้งค่า: เมื่อไม่มีโดเมนที่เชื่อมโยงกับคู่เหตุการณ์พิกเซลและโฆษณาของคุณ โฆษณานั้นจะถูกปิด คุณจะต้องแก้ไขโฆษณาของคุณหรือกำหนดค่าคู่เหตุการณ์พิกเซลในตัวจัดการเหตุการณ์เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดนี้ หากต้องการเปิดโฆษณานี้อีกครั้ง ให้เลือกโดเมนใหม่สำหรับโฆษณาของคุณหรือกำหนดค่าคู่เหตุการณ์พิกเซลสำหรับโดเมนของคุณในตัวจัดการเหตุการณ์
    • กำลังอัพเดตเหตุการณ์: เมื่อคุณหรือผู้ที่จัดการบัญชีของคุณอัพเดตเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นในตัวจัดการเหตุการณ์ หรือนำเข้าคอนเวอร์ชั่นใหม่จากแอพของพาร์ทเนอร์ ชุดโฆษณาหรือแคมเปญของคุณอาจถูกหยุดชั่วคราว ต้องใช้เวลา 72 ชั่วโมงเพื่อทำให้การอัพเดตเสร็จสมบูรณ์ เมื่อการอัพเดตเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะสามารถเปิดแคมเปญที่ถูกหยุดชั่วคราวได้

ข้อจำกัดด้านการรายงาน

    • การรายงานที่ล่าช้า: จะไม่มีการรองรับการรายงานแบบเรียลไทม์ ดังนั้น ข้อมูลจึงอาจล่าช้าได้สูงสุดถึง 3 วัน สำหรับแคมเปญเพื่อการติดตั้งแอพบน iOS 14 เหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นจะถูกรายงานตามเวลาที่ SKAdNetwork API รายงานไปยัง Facebook ไม่ใช่เวลาที่เกิดเหตุการณ์ เหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นเว็บไซต์จะถูกรายงานตามเวลาที่คอนเวอร์ชั่นเกิดขึ้น ไม่ใช่เวลาที่เกิดอิมเพรสชั่นโฆษณาที่เชื่อมโยงไว้
    • ผลลัพธ์โดยประมาณ: SKAdNetwork API จะรายงานผลลัพธ์โดยรวมไปยัง Facebook ในระดับแคมเปญ สำหรับแคมเปญเพื่อการติดตั้งแอพบน iOS 14 การสร้างแบบจำลองทางสถิติอาจใช้เพื่ออธิบายผลลัพธ์ที่ระดับโฆษณาและระดับชุดโฆษณา เว้นแต่ว่าจากแคมเปญนั้นๆ จะมีโฆษณาหรือชุดโฆษณาเพียงชิ้นเดียว สำหรับเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นบนเว็บ อาจมีการใช้แบบจำลองเชิงสถิติในบัญชีเพื่อรับคอนเวอร์ชั่นจากผู้ใช้ iOS 14
    • ไม่รองรับข้อมูลแยกย่อย: จะไม่มีการรองรับข้อมูลแยกย่อยของการแสดงโฆษณาและการดำเนินการ เช่น อายุ เพศ ภูมิภาค และตำแหน่งการจัดวาง สำหรับทั้งคอนเวอร์ชั่นบนแอพและเว็บไซต์
    • การเปลี่ยนแปลงที่มีต่อการตั้งค่าช่วงการระบุที่มาของบัญชี: เมื่อ Apple บังคับใช้ข้อกำหนด iOS 14 ช่วงการระบุที่มาสำหรับแคมเปญโฆษณาใหม่หรือที่กำลังใช้งานทั้งหมดจะถูกตั้งค่าไว้ที่ระดับชุดโฆษณา แทนที่จะเป็นระดับบัญชี การตั้งค่าการระบุที่มาของชุดโฆษณาใหม่สามารถเข้าถึงได้ในระหว่างการสร้างแคมเปญ การตั้งค่าการระบุที่มาในระดับชุดโฆษณาแบบนี้จะช่วยให้แน่ใจได้ว่าคอนเวอร์ชั่นที่วัดผลได้เป็นคอนเวอร์ชั่นเดียวกันกับที่ใช้เพื่อให้ข้อมูลการปรับแต่งแคมเปญให้เหมาะสม และจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความชัดเจนให้กับการวิเคราะห์ประสิทธิภาพโฆษณา นอกจากนั้น ค่าเริ่มต้นสำหรับแคมเปญโฆษณาใหม่หรือที่กำลังใช้งานทั้งหมด (นอกจากแคมเปญเพื่อการติดตั้งแอพบน iOS 14) จะตั้งช่วงการระบุที่มาไว้ที่ 7 วัน แคมเปญเพื่อการติดตั้งแอพบน iOS 14 จะรายงานโดยอิงจากช่วงการระบุที่มาที่ส่งมาจาก SKAdNetwork API ของ Apple

หลังจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ยกเว้นแคมเปญเพื่อการติดตั้งแอพบน iOS 14 และกฎอัตโนมัติ คุณจะสามารถปรับแต่งค่าเริ่มต้นช่วงการระบุที่มาในการคลิกที่ 7 วันให้กับช่วงอื่นๆ ที่ยังรองรับอยู่ได้ การตั้งค่าการระบุที่มาแบบใหม่จะรองรับช่วงการระบุที่มาดังต่อไปนี้

      • การคลิกในช่วง 1 วัน
      • การคลิกในช่วง 7 วัน (ค่าเริ่มต้นหลังจากการบังคับใช้ข้อความแจ้งของ Apple)
      • การคลิกในช่วง 1 วันและการดูในช่วง 1 วัน
      • การคลิกในช่วง 7 วันและการดูในช่วง 1 วัน (ค่าเริ่มต้น)

ก่อนที่ช่วงการระบุที่มาแบบการคลิกผ่านในช่วง 28 วัน การรับชมผ่านในช่วง 28 วัน และการรับชมผ่านในช่วง 7 วัน จะไม่สามารถใช้งานได้ คุณควรเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเตรียมความพร้อม

    • ใช้ฟีเจอร์การเปรียบเทียบช่วงต่างๆ เพื่อดูว่าคอนเวอร์ชั่นมีการระบุที่มาจากโฆษณาของตนอย่างไรเมื่อเทียบกับช่วงการระบุที่มาอื่นๆ วิธีนี้จะช่วยให้คุณเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับคอนเวอร์ชั่นที่ถูกรายงานซึ่งเป็นผลมาจากการย้ายไปใช้ช่วง 7 วันได้ดีขึ้น
    • ส่งออกข้อมูลประวัติของช่วงการระบุที่มาของการรับชมหรือการคลิกในช่วง 28 วัน หรือการรับชมในช่วง 7 วันที่คุณต้องการ ข้อมูลประวัติจะยังสามารถเข้าถึงได้ใน API ข้อมูลเชิงลึกของโฆษณา แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้แล้วก็ตาม
    • เมื่อการเปลี่ยนแปลงของ Apple มีผลบังคับใช้ กฎอัตโนมัติทั้งหมดจะเปลี่ยนไปเป็นช่วงการระบุที่มาแบบการคลิกในช่วง 7 วัน อัพเดตช่วงการระบุที่มาสำหรับกฎอัตโนมัติไปเป็นช่วงการระบุที่มาแบบการคลิกในช่วง 7 วันในตอนนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ไม่คาดคิดซึ่งอาจเกิดขึ้นกับกฎอัตโนมัติของคุณในภายหลัง ตัวเลือกสำหรับเจาะจงช่วงการระบุที่มาต่างๆ สำหรับกฎอัตโนมัติจะไม่สามารถใช้งานได้

ข้อจำกัดด้านการกำหนดเป้าหมาย

เมื่อผู้คนจำนวนมากขึ้นปิดใช้งานการติดตามบนอุปกรณ์ที่ใช้ iOS 14 จำนวนคนที่เชื่อมต่อบนแอพ กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากกิจกรรมบนแอพ และกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองบนเว็บไซต์อาจลดลง

 

ข้อจำกัดด้านโฆษณาแบบไดนามิก

เมื่อผู้คนจำนวนมากขึ้นอัพเดตไปใช้ iOS 14 จำนวนของกลุ่มเป้าหมายเพื่อการกำหนดเป้าหมายซ้ำของคุณอาจลดลง หากคุณไม่สามารถใช้เพียง 1 พิกเซลได้ ให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่จัดลำดับความสำคัญไว้ทั้ง 8 เหตุการณ์สำหรับแต่ละโดเมนในตัวจัดการเหตุการณ์ หากคุณใช้หลายโดเมนในแค็ตตาล็อก ให้ตรวจสอบยืนยันว่าแต่ละโดเมนของเว็บไซต์ที่คุณใช้เป็น URL ของสินค้า และหลีกเลี่ยงการใช้ URL ของสินค้าใดๆ ที่เปลี่ยนเส้นทางไปยังโดเมนอื่น

 

เมื่อคุณสร้างชุดโฆษณา คุณจะสามารถเลือกได้เพียง 1 จาก 8 เหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นที่จัดลำดับความสำคัญไว้เพื่อทำการปรับให้เหมาะสมเท่านั้น คุณสามารถจัดการการตั้งค่าของคุณได้ในตัวจัดการเหตุการณ์ ชุดโฆษณาที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นที่ไม่ได้จัดลำดับความสำคัญไว้จะถูกหยุดชั่วคราวเมื่อมีการเปิดใช้การวัดผลเหตุการณ์แบบรวมขึ้นในต้นปี 2021

 

 

 

เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา

แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @ajlink ที่นี่

Fanpage : Aj Link

By Ajlink