คุณติดตามการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มโฆษณาบน Facebook หรือไม่? รู้หรือไม่? ว่าต้นทุนโฆษณาใน Facebook เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากปัจจัยสำคัญหลายประการดังต่อไปนี้
- Supply and Demand
ปัจจุบันมีผู้โฆษณาบน Facebook มากกว่า 6 ล้านคน หมายถึง ผู้โฆษณาจำนวนมาก = ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากปริมาณที่จำกัด ซึ่งทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น
- Seasonal Traffic
ผู้โฆษณาจำนวนมากเข้ามาใช้แพลตฟอร์ม เพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ และเพิ่มยอดขายพิเศษสำหรับช่วงเทศกาลวันหยุด ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
- Politics
ผู้สมัครทางด้านการเมืองที่กำลังจะโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Facebook จะสามารถกำหนดเป้าหมายได้สูง แต่ค่าใช้จ่ายไม่ได้สูงมาก และยังคงได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมด้วย
- Ad Quality
เหตุผลสำหรับประสิทธิภาพโฆษณาที่ไม่ดีอาจเป็นได้ว่า โฆษณาของคุณไม่ดีนัก อัลกอริทึมตอบแทนผู้โฆษณาที่มอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ เพราะนั่นคือสิ่งที่ Facebook และ Instagram ต้องการทำ แพลตฟอร์มต้องการให้ผู้โฆษณาเข้าใกล้สิ่งต่างๆ จากมุมมองเชิงบวกไม่ใช่แง่ลบ ยิ่งคุณสามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถในการกำหนดเป้าหมายของ Facebook ด้วยการส่งข้อความ และโฆษณาของคุณมากเท่าไหร่ โฆษณาของคุณก็จะยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น การส่งมอบมากขึ้นเท่ากับต้นทุนที่ต่ำกว่า
- Lifetime Value
ต้นทุนการซื้อของลูกค้าก็อาจช่วยให้เราสามารถจัดการกับต้นทุนโฆษณาที่มีราคาสูงได้ หากต้นทุนลูกค้าเป้าหมายของคุณเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า แต่คุณรู้มูลค่าของลูกค้าจะทำให้คุณสามารถจัดการกับต้นทุนได้
- มือถือเป็นอุปกรณ์อันดับแรกที่จะแสดงโฆษณา Facebook
คุณต้องคิดถึงการแสดงผลบนมือถือก่อน เมื่อสร้างโฆษณาของคุณ โดย Mark Zuckerberg เพิ่งระบุว่า เปอร์เซ็นต์โดยรวมของรายได้โฆษณาบน Facebook จากมือถือมากกว่า 90% ซึ่งสูงมาก ผู้คนกำลังเข้าถึง Facebook และ Instagram บนอุปกรณ์มือถือ
- รูปภาพโฆษณา
Facebook ปรับขนาดรูปภาพในตำแหน่งโฆษณาทั้งหมด เพื่อให้เราไม่ต้องสร้างรูปแบบที่แตกต่างกันของภาพ อัตราส่วน 5: 4 เป็นมาตรฐาน และสี่เหลี่ยมจัตุรัสยังใช้งานได้ดีกับอุปกรณ์พกพาไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือวิดีโอ
- ความยาวข้อความโฆษณา
คุณควรดึงดูดความสนใจของผู้คนด้วยข้อความโฆษณา 1 หรือ 2 บรรทัดแรก เพื่อให้โฆษณาดำเนินการกับโฆษณา ก่อนที่จะคลิก “…ดูเพิ่มเติม”
- ตำแหน่งข้อความ
Newsfeed Description ซึ่งใช้สำหรับเดสก์ท็อปเท่านั้น จะมีข้อความพาดหัว และจากนั้นคุณสามารถใส่ข้อความ 2-3 บรรทัดด้านล่างพาดหัวที่จะปรากฏเฉพาะสำหรับฟีดข่าวบนเดสก์ท็อป
จุดที่น่าสนใจสำหรับโฆษณาบนมือถือ คือ ถ้าคุณมีปุ่มกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA) เช่น เรียนรู้เพิ่มเติม ก็อาจตัดบางส่วนของบรรทัดแรกของคุณ ให้คุณตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ดูตัวอย่างว่าโฆษณาของคุณว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร
- Instagram First
เมื่อคุณเลือกตำแหน่งทั้งหมดจะอนุญาตให้ Facebook แสดงโฆษณาของคุณ รวมถึง Instagram, ฟีดข่าว Facebook, Instant Articles และตัวเลือกอื่นๆ หากคุณใช้ตำแหน่งทั้งหมดให้ดูรายละเอียดการแสดงโฆษณาใน Ads Manager และดูว่าโฆษณาของคุณกำลังแสดงผลที่ใด สิ่งนี้จะแบ่งย่อยเรื่อง Instagram กับฟีด
- วีดีโอ
Instagram Stories ads ยังมีผู้ใช้บริการยังไม่มากนักสำหรับตำแหน่งนี้ ดังนั้นต้นทุนจึงต่ำ โฆษณามีแนวโน้มที่จะเห็นประสิทธิภาพที่ดีที่สุดจากโฆษณาใน Instagram Story ทั้งวิดีโอและภาพมาตรฐาน โฆษณาจะปรากฏเป็นเวลา 15 วินาที
- ใช้วิดีโอในโฆษณา Facebook ของคุณ
Facebook จะให้ความสำคัญกับวิดีโอมากขึ้น จึงควรทำวิดีโอเพื่อยกระดับ วิธีที่แพลตฟอร์มต้องการให้ผู้ใช้บริโภคเนื้อหา ในฐานะผู้โฆษณาจึงต้องการใช้ประโยชน์จากวิธีการที่ผู้คนบริโภคเนื้อหา
- ความยาววิดีโอ
ความยาววิดีโอทั้งหมดจะแตกต่างกันไปตามสิ่งที่คุณนำเสนอ และสิ่งที่คุณพยายามจะทำให้สำเร็จกับวิดีโอ คุณสามารถใช้โฆษณาเดียวกันทั้ง Instagram และ Facebook แต่โฆษณาวิดีโอใน Instagram จำกัดเวลาอยู่ที่ 60 วินาที
- คำบรรยายภาพวิดีโอ
โฆษณาวิดีโอมักจะเริ่มปิดเสียง ดังนั้นคุณต้องสร้างวิดีโอที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนด้วยการปิดเสียง หากวิดีโอมีการพากย์เสียงคุณต้องเพิ่มคำอธิบาย เพื่อให้บางคนที่ดูด้วยการปิดเสียงยังคงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
- ข้อความในวิดีโอ
นำเสนอข้อความไม่เกิน 20% ของภาพ คุณสามารถถ่ายภาพนิ่ง และเพิ่มข้อความภาพเคลื่อนไหว เพื่อให้มีความโดดเด่นมากขึ้นในฟีด
- คุณภาพวิดีโอ
9 ใน 10 ผู้คนใช้โทรศัพท์เพื่อสร้างวิดีโอ เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2020 โฆษณาวิดีโอที่มีประสิทธิภาพที่สุด จะเป็นโฆษณาที่มีความเป็นธรรมชาติ
- Live Video
การเปลี่ยนวิดีโอสดเป็นโฆษณายังคงมีประสิทธิภาพมาก วิดีโอสดมักจะมีความยาวกว่าปกติ เช่น การสอนเป็นเวลา 30 นาที วิดีโอที่ยาวขึ้นนั้น อาจเป็น remarketing video ที่ดีสำหรับคนที่ดูวิดีโออื่นของคุณ
- การมีส่วนร่วมกับวิดีโอ
เราสามารถสร้างผู้ชมที่มีส่วนร่วมกับวิดีโอของเรา เราสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของคนเหล่านั้นที่กำลังรับชมวิดีโอของเรา จากนั้นเราสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่ดูไม่เหมือนใครจากผู้ชมเหล่านั้น
- การเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณแคมเปญ Facebook
การเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณแคมเปญ (CBO) เป็นคุณสมบัติใหม่ที่ Facebook เพิ่งเปิดตัว งบประมาณได้รับการพิจารณาตามธรรมเนียมในระดับชุดโฆษณา
CBO สามารถตั้งงบประมาณในระดับแคมเปญ และอัลกอริทึมของ Facebook จะปรับค่าใช้จ่ายโฆษณาโดยอัตโนมัติและจัดสรรตามชุดโฆษณา และโฆษณาที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด
- การเพิ่มประสิทธิภาพตำแหน่ง
เมื่อคุณเลือกตำแหน่งทั้งหมดใน Facebook และ Instagram แนวคิดก็คือ อัลกอริทึมจะค้นหาลูกค้าเป้าหมายที่ดีที่สุดของคุณ ผู้ใช้บางคนกำลังอยู่ในฟีดข่าว Instagram ในตอนเช้า จากนั้นในตอนบ่ายพวกเขาอาจจะอยู่ในฟีดข่าว Facebook อัลกอริทึมได้รับการออกแบบมาเพื่อผสมข้อมูลดังกล่าว และค้นหาว่าผู้ใช้และลูกค้าของคุณอยู่ที่ใด โดยจะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม และวิธีการใช้ตำแหน่งต่างๆ
เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @ajlink ที่นี่
Fanpage : Aj Link
ติดตามข่าวสารไอที : www.ajlink.net
ที่มา : socialmediaexaminer