- Agency แบบ Freelance
- เหมาะกับใคร? อันนี้สรุปยากครับ เพราะอยู่ที่ Freelance คนนั้นเก่งขนาดไหน ซึ่งหลากหลายมากเกินกว่าจะให้ Guideline ได้
 - ข้อดีอันนี้ถ้าโชคดีได้คนเก่งมาช่วยงาน จะดีตรงที่เราคุยตรงกับคนเก่งคนนั้นได้ตลอด ไม่ต้องผ่านหลายขั้นหลายตอน
 - ข้อเสีย โดยมากถ้าเป็นคนเก่ง ไม่นานงานเค้าจะเริ่มเยอะขึ้น เวลาดูแลเราจะเริ่มน้อยลง อันนี้ต้องคอยสอบถามอยู่เรื่อยๆ หรือถ้าเค้าเกิดป่วย อยากจะพักผ่อนบ้าง หรือหนักกว่านั้นเค้าอยากจะเลิกทำอาชีพนี้แล้ว เค้าจะไม่ค่อยมีตัวสำรองให้เรา ต้องคอยบริหารความเสี่ยงตรงนี้ด้วยครับ
 
 - Agency แบบ Mass ค่าบริการหลักพันต่อเดือน มีพนักงาน 2-10 คน ดูแลลูกค้า ~100-500 ราย
- Agency ราคาย่อมเยาวน์
 - เหมาะกับใคร?เหมาะกับ SME ที่ยอดขายต่ำกว่า 10 ล้านต่อปี ธุรกิจที่พึ่งเริ่ม หรือยังไม่แน่ใจว่าเราจะอยู่กับธุรกิจนี้อีกนานมั๊ย
 - ข้อดีราคาเริ่มต้นถูก เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้
 - ข้อเสีย โดยมากบริษัทแบบนี้ จะมีพนักงานค่อนข้างเยอะ เช่น 100 คน และเนื่องจากค่าบริการถูก จะต้องดูแลลูกค้าจำนวนมาก ดังนั้นเวลาในการดูแลเราย่อมน้อยเป็นเรื่องปกติ และพนักงานมักจะเป็นระดับจูเนียร์ ดังนั้นอย่าคาดหวังว่าส่วนใหญ่จะเข้าใจเรื่องธุรกิจ เรื่องการตลาดมากนัก ยกเว้นแต่โชคดีบังเอิญเจอคนเก่งจริงๆ แต่ถ้าเค้าเข้าใจเรื่อง Google Adwords ก็ยังโอเคนะครับ เราก็ต้องคอย Brief เรื่องของเราให้เค้าฟังเยอะๆหน่อย
 
 - Agency แบบ Medium ค่าบริการหลักหมื่นต่อเดือน ที่มีพนักงาน 11-50 คน ดูแลลูกค้า
- Agency แบบนี้เปรียบเทียบเหมือนคุณจ้าง Digital Marketing Manager ซักคน เงินเดือน 3-4 หมื่น
 - เหมาะกับใคร?เหมาะกับ SME ที่ยอดขายเฉลี่ย ยี่สิบ ถึงห้าร้อยล้าน บวกลบ มีพนักงานการตลาดอยู่ในบริษัทตัวเองช่วยประสานงานได้
 - ข้อดี เนื่องจาก scale นี้ agency เก็บค่าบริการที่สูงมากขึ้น ดังนั้นจำนวนลูกค้าที่ดูแลต่อพนักงานจะไม่มากจนเกินไป ส่วนมากจะสามารถนัดเข้ามาประชุม และคุยเรื่องกลยุทธ์, KPI ต่างๆได้
 - ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเมื่อเทียบกับแบบ Mass และถ้าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่มากๆมาใช้บริการ จะไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกเรื่องด้วยบริษัทเดียว ทำให้ต้อง outsource กระจายงานไปให้หลายบริษัท
 
 - Agency แบบ Large ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเฉลี่ย 1 ล้านต่อ project ขึ้นไป
- Agency แบบนี้จะตรงข้ามกับแบบ Mass คือ ลูกค้า 10 ราย ดูแลด้วยพนักงาน 100 คน
 - เหมาะกับใคร? เหมาะกับบริษัทที่ยอดขายเฉลี่ยหลักพันล้าน หมื่นล้าน แสนล้านต่อปี เช่นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ หรือ SME ที่โตมากๆ และพร้อมลงทุนสูง
 - ข้อดีกำลังคนดูแลเหลือเฟือ, ส่วนมากจะมีระดับหัวๆที่ประสบการณ์สูงดูแล, ได้การสื่อสาร การตลาดองค์รวมทั้งหมดโดยคุยกับเจ้าเดียว
 - ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นมักจะสูง จนถึงสูงมาก
 
 
- ธุรกิจทำอะไรบ้าง
 - มี Product อะไรบ้าง?
 - Hero product ที่ยอดขายดีๆมีอะไรบ้าง?
 - โปรโมชั่นที่คุณมี
 - จุดแข็งของสินค้า/บริการแต่ละตัว
 - Targeted market กลุ่มเป้าหมายที่เราโฟกัสมีกลุ่มไหนบ้าง?
 - ในอดีตทำการตลาดช่องทางไหนมาแล้วบ้าง?
 - ช่องทางไหน Success ที่สุด ปัจจัยความ Success มาจากอะไรบ้าง?
 - เคยทำการตลาดออนไลน์มาบ้างหรือยัง?
 - ทำเอง หรือจ้าง agency?
 - ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง?
 - มีอะไรที่ชอบ หรือไม่ชอบตอนทำงานกับ agency หรือทีมเก่าบ้าง?
 - สินค้าคุณมี Seasonal หรือไม่? ยอดขายช่วงไหนดีที่สุด แย่ที่สุด?
 - วัตถุประสงค์ในการทำการตลาดคุณเน้นอะไร สัดส่วนเท่าไหร่ ระหว่าง Performance (ยอดขาย,ยอดติดต่อ) / Awareness (การรับรู้)
 - คุณมีเป้าหมายเป็นตัวเลขหรือไม่ เช่น ยอดติดต่อ/ยอดขาย ต่อเดือน ต่อปี
 - เป้าระยะกลาง 1 ปี 3 ปี 5 ปี คุณคืออะไร?
 - คุณมี Resources อะไรอยู่ ณ ปัจจุบันบ้าง เช่น เว็บไซต์, video, หนังสือ, วางขายที่ไหนอยู่แล้ว
 - คุณมีทีมงานตำแหน่งอะไร ฝ่ายอะไรช่วยงานนี้อยู่บ้าง
 - งบประมาณการตลาด
 
